ถ้วยนี้อูไนชอบ! บียาร์เรอัลคว้าแชมป์ยูโรปาลีก – ข่าวฟุตบอล
ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระหว่าง บียาร์เรอัล พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยคู่นี้เคยเจอกันมา 4 ครั้งล่าสุด เสมอด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งหมด โดยเล่นกันที่ กดังส์ค สเตเดี้ยม ในประเทศโปแลนด์
บียาร์เรอัล เข้าชิงรายการนี้เป็นครั้งแรก อูไน เอเมรี่ เกมนี้ได้ ฮวน ฟอยธ์ ที่ยืมมาจากสเปอร์ส ฟิตลงยืนแบ็คขวา แนวรุกใช้ เคราร์ด โมเรโน่, การ์ลอส บักก้า และ เยเรมี ปีโน่
ทางฝั่่ง แมนฯ ยูไนเต็ด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เปลี่ยนทีมจากเกมนัดสุดท้ายพรีเมียร์ลีกที่ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 กลับมาใช้ชุุดใหญ่ยกชุด เอริค ไบยี่ ลงเจอทีมเก่า โดยมี เอดินสัน คาวานี่ ยืนค้ำในแดนหน้า ส่วน แฺฮร์รี่่ แม็คไกวร์ เป็นเพียงสำรอง
บียาร์เรอัลดวลฎีกาจุดโทษชนะแมนฯยู ได้แชมป์ไปครอง – ข่าวฟุตบอล
- นาทีที่ 29 เป็น บียาร์เรอัล ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ดานี่ ปาเรโฆ่ เปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบให้ เคราร์ด โมเรโน่ หนีตัวประกบวิ่งเข้าไปเบียดกับ ลินเดอเลิฟ ก่อนล้มแปด้วยขวาผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไป
- จบครึ่งแรก บียาร์เรอัล ขึ้นนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0
- นาทีที่ 56 ปีศาจแดง มาไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ มาร์คัส แรชฟอร์ด เก็บบอลได้ก่อนซัดจากแถวสองซ้ำเข้าไปบอลไปติด กระดอนไปชน แม็คโทมิเนย์ แล้วมาเข้าทาง เอดินสัน คาวานี่ วิ่งไปซัดด้วยขวาไม่ถึง 6 หลาเข้าไปตุงตาข่าย
- จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
- จบต่อเวลาพิเศษ 120 นาทียงคงเสทอกัน 1-1 ต้องดวลจุดโทษ
- ปรากฎว่า 10 คนของทั้งสองทีมยิงได้อย่างแม่นยำส่งบอลเข้าก้นตาข่าย ก่อนคนที่ 11 ของ บียาร์เรอัล จะวนมาที่ เคโรนิโม่ รูยี่ ผู้รักาประตูของทีมที่ยิงเข้าไปก่อน โยนความกดดันมาให้ ดาบิด เด เคอา
- ปรากฎว่า นายด่านชาวสเปนยิงไม่ดีซัดไปติดมือของ รูยี่ ส่งผลให้ บียาร์เรอัล ผงาดคว้าแชมป์ยูโรปาลีกเป็นสมัยแรกได้สำเร็จ
รายชื่อตัวจริง&ตัวสำรอง, สถิติหลังเกม บียาร์เรอัล 1(11) – 1(10) แมนฯยูไนเต็ด – ข่าวฟุตบอล
บียาร์เรอัล (4-4-2)
- เคโรนิโม่ รูยี่
- ฮวน ฟอยธ์ (มาริโอ แกสปาร์ น.88), ราอูล อัลบิโอล, เปา ตอร์เรส, อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า (อัลแบร์โต้ โมเรโน่ น.88)
- เยเรมี่ ปิโน่ (ปาโก้ อัลกาแซร์ น.77), เอเตียนน์ กาปู (เรบ้า น.120+3), ดานี่ ปาเรโฆ, มานู ตริเกรอส (มอย โกเมซ น.77)
- เคราร์ด โมเรโน่, การ์ลอส บัคก้า (ฟรานซิสโก้ โกเกแล็ง น.60)
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1)
- ดาบิด เด เคอา
- แอรอน แวน-บิสซาก้า (ฆวน มาต้า น.120+3), เอริค ไบยี่ (อั๊กเซล ตวนเซเบ้ น.116), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์
- สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (อเล็กซ์ เตลลิส น.120+3), ปอล ป็อกบา (แดเนี่ยล เจมส์ น.117)
- เมสัน กรีนวู้ด (เฟร็ด น.100), บรูโน่ แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด
- เอดินสัน คาวานี่
สถิติหลังเกม
- ครองบอล บียาร์เรอัล 39% แมนฯยูไนเต็ด 53%
- โอกาสยิง บียาร์เรอัล 12 แมนฯยูไนเต็ด 14
- ยิงเข้ากรอบ บียาร์เรอัล 1 แมนฯยูไนเต็ด 2
- ใบเหลือง บียาร์เรอัล 2 แมนฯยูไนเต็ด 2
- ผู้รักษาประตูเซฟ บียาร์เรอัล 1 แมนฯยูไนเต็ด 0
สรุป ถ้วยนี้อูไนชอบ! บียาร์เรอัลคว้าแชมป์ยูโรปาลีก – ข่าวฟุตบอล
ถ้วยนี้ต้องยกให้เขาจริงๆกับอูไน เอเมรี่ที่มาแพ็คเกมนี้จนสามารถคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ และแมนยูยุคโซลชาก็ต้องควานหาถ้วยแชมป์ต่อไป
หากคุณชื่นชอบบทความฟุตบอล สามารถติดตามทุกความเคลื่อนไหวในวงการลูกหนัง อัพเดทข่าวสารในวงการฟุตบอล ทั้งไทย และต่างประเทศได้ที่นี่ >> ข่าวฟุตบอล << คลิกเพื่ออ่านหัวข้ออื่นๆเพิ่มเติม