ริทซึ โดอัน เพลย์เมกเกอร์เลือดซามูไร
หลังจากหมดยุคของ ฮิเดโตชิ นากาตะไปแล้ว , ชื่อของ เคซุเกะ ฮอนดะ ก็อยู่ในช่วงปลายชีวิตค้าแข้ง และนักเตะที่เคยเป็นคีย์แมนของซามูไรบลูอย่าง ชินจิ คางาวะ กลับไม่มีชื่อติดทีมไปลุยศึก เอเชียน คัพ2019
แต่ในเมื่อมีระบบการสร้างเยาวชนที่แข็งแกร่งของญี่ปุ่น ฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าญี่ปุ่นจะผลิตดาวรุ่งขึ้นมาทดแทนสามตำนานซามูไรไม่ทัน เพราะอย่างน้อยที่สุด มีอยู่คนหนึ่งที่กำลังโลดแล่นใน ศึกเอเรดิวิซี่ ลีก ของเนเธอร์แลนด์อยู่ในเวลานี้
เขาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกเป็นเพลย์เมกเกอร์ก็ได้ และสามารถเล่นเป็นบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ มิดฟิลด์ได้เช่นเดียวกัน
ดาวเตะที่ไม่ได้มีเพียงพรสวรรค์ , แต่มีความขยันเต็มร้อยที่ชื่อ ริทซึ โดอัน
โดอันมีทุกอย่างที่มิดฟิลด์เชิงรุกควรมี รูปร่างที่เล็กเมื่อเทียบกับคนยุโรปถูกแทนที่ด้วยความคล่องตัว และเทคนิคการเลี้ยงกินตัวที่จัดจ้าน สามารถผ่านแนวรับฝั่งตรงข้ามได้ในพื้นที่แคบๆ แถมยังมีลูกยิงไกลที่เฉียบคม และเป็นปีกสมัยใหม่ที่ถนัดเท้าซ้าย ดังนั้นเขาสามารถเป็นปีกขวาคุณภาพที่หลายทีมในยุโรปต้องการตัว
และอีกหนึ่งจุดเด่นของโดอัน อยู่ที่การหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษ และเซนส์การจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม เพราะอย่าลืมว่าแม้เขาจะเล่นเป็นตัวริมเส้น แต่ตำแหน่งที่เขาชอบและถนัดที่สุดก็คือเพลย์เมกเกอร์นั่นเอง
โดอันเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งที่โรงเรียนนิชิโนมิยะ ของประเทศญี่ปุ่น และเมื่อเรียนถึงชั้นมัธยมต้น ฝีเท้าของเขาไปเตะตาแมวมองทั้งกัมบะ โอซาก้า และ นาโงย่า แกรมปัส เอท ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจเข้าร่วมทีมเยาวชนของกัมบะ โอซาก้าในปี 2012 และคว้าแชมป์เยาวชนร่วมกับกัมบะ ยู-15 ถึงสามสมัย
โดอัน ขึ้นชุดใหญ่ของกัมบะ เมื่ออายุได้เพียง 16 ปี และมีชื่อติดทีมในเกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปี 2015 กระทั่งได้ประเดิมสนามพบ เอฟซี โซลด้วยอายุ 16 ปี 344 วัน จากนั้นไม่นานก็เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่เล่นในเจลีก ด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปีเช่นเดียวกัน ทำลายสถิติเดิมของ ก่อนหน้านี้ของทาคาชิ อูซามิ อดีตดาวเตะกัมบะ ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่ในเยอรมนีกับฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ
แข้งดาวรุ่งทำประตูแรกของตัวเองให้กับกัมบะ โอซาก้า ชุดยู-23 ในเกมเจลีก 3 ในปี 2016 และเล่นเป็นตัวหลักให้กับทีมชุดเล็กของสโมสรอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้รับข้อเสนอจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ทีมจากเนเธอร์แลนด์ แต่ก็เป็น อูซามิ ดาวเตะรุ่นพี่ และ เคนตะ ฮาเซงาวะ ผู้จัดการทีมกัมบะ ในเวลานั้น ที่แนะนำให้ โดอัน อยู่กับทีมต่อไป เขาเชื่อในตัวของรุ่นพี่และเฮดโค้ช ปฏิเสธข้อเสนอจากเนเธอร์แลนด์ กระทั่งได้ขึ้นทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง และทำประตูแรกในเจลีกได้ ในเกมกับ โอมิยะ อาร์ดิย่า ในเดือนเมษายนปี 2017 ต่อเนื่องด้วยการทำประตูในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ใส่ แอดเลด ยูไนเต็ด ทีมในศึก เอลีก ออสเตรเลีย
ข้อเสนอจากเนเธอร์แลนด์ยื่นเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้เป็นของโกรนิงเก้น อีกหนึ่งทีมเก่าแก่ของลีก และคราวนี้ โดอัน ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอย เขาลงสนามให้กับทีมทันทีในเกมลีกนัดแรกที่พบ ฮีเรนวีน ต่อด้วยประเดิมประตูแรกในเกมกับ เฮราเคลส อัลเมโล่
หนึ่งฤดูกาลครึ่งของ โดอัน กับ โกรนิงเก้น เขาลงสนามไปแล้ว 49 เกมและยิงไป 14 ประตู 6 แอสซิสต์ เขากลายมาเป็นตัวหลักและหัวใจสำคัญในแนวรุกของทีมนับตั้งแต่ย้ายมา และในฤดูกาลนี้ โดอัน ลงสนามครบ 90 นาที ทุกเกมที่ โกรนิงเก้น มีการแข่งขัน
แน่นอนว่า โกรนิงเก้น ไม่ใช่สโมสรสุดท้ายในชีวิตของเขา สิ่งที่เขาต้องการคือย้ายไปร่วมทีมที่ใหญ่กว่าในยุโรป โกรนิงเก้น ไม่ใช่ทีมใหญ่และในปีนี้พวกเขาก็อยู่ในอันดับ 15 ของตารางคะแนนซึ่งเป็นทีมเข้าข่ายหนีตกชั้น
ฉะนั้นการพัฒนารายละเอียดการเล่นของตัวเองในระดับสโมสร ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ โดอัน จะต้องมุ่งมั่นทำต่อไป เขาอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น , หนทางยังอีกยาวไกล เขาอาจจะเป็นเหมือน ชินจิ โอโนะ ไอดอลของเขา หรือยิ่งใหญ่กว่าก็เป็นได้ แต่ก่อนอื่น เป้าหมายของเขาในตอนนี้คือการคว้าถ้วย เอเชียน คัพ สมัยที่ 5 ให้กับซามูไรบลู ให้ได้เสียก่อน