วิ่งแบบพี่ตูน วิ่งแบบพี่ตูน วิ่งอีกแล้วเหรอพี่ตูน
ชั่วโมงนี้คนไทยทุกคนไม่มีใครไม่รู้จัก“ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย”หรือ ตูน บอดี้สแลม หรือพี่อูน จากโครงการ ‘วิ่งก้าวคนละก้าว’ ในปีที่แล้วโดยวิ่งทั้งหมด 55 วัน จากเบตง- เชียงราย เพื่อหาเงินช่วยโรงพยาบาลใหญ่ๆทั่วประเทศในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆเพื่อเอามาช่วยเหลือคนต่อไป โดยรวมระยะทางกว่า 2,215 กม. ได้ยอดเงินบริจาคทั้งสิ้นกว่า 1,142 ล้านบาท ซึ่งหลังจากจบโครงการนั้นก็ได้ทำให้คนไทยหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น โดยทุกวันนี้ได้มีโครงการวิ่งเกิดขึ้นมากมายและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
โดยล่าสุดในปีนี้พี่ตูนนั้นจะมีการวิ่งอีกครั้ง ซึ่งจุดประสงค์ของพี่ตูนในโครงการก้าวคนละก้าวในปีนี้ เพื่อช่วยงานสาธารณสุขไปตลอด เพื่อช่วยโรงพยาบาล รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้คนมาออกกำลังกาย แต่อาจจะไม่ใช่การวิ่งยาว ๆ เหมือนเบตง-แม่สาย แต่จะเป็นการวิ่งสั้น ๆ อย่างต่อเนื่อง ครั้งที่แล้วพวกเราคนไทยได้ช่วยโรงพยาบาลระดับศูนย์ขนาดใหญ่ไปแล้ว ในปีนี้ก็จะทำในโรงพยาบาลที่ขนาดเล็กลงไปเป็นประจำอำเภอ ประจำจังหวัดต่อไป
ซึ่งตอนที่รู้ข่าวก็รู้สึกเห็นดีเห็นงามกับพี่เขามากๆและตั้งใจว่าจะช่วยสนับสนุนอีกเช่นเคย แต่ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่พี่ตูนชอบ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจที่พี่เขาต้องออกมาทำเรื่องแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก อดคิดไม่ได้ว่าร่างกายเขาจะเหนื่อยล้าแค่ไหน ไหนยังคอนเสิร์ตอีกเพียบ งานหลายๆด้านที่พี่เขาทำอยู่อีกมากมาย ซึ่งถ้าคนที่ได้ร่วมโครงการวิ่งต่างๆจะรู้เลยนะว่าจะวิ่งแต่ละครั้งต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ มันต้องสละเวลาพักผ่อนและต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ แทนที่จบจากงานจะได้พักผ่อน กลับต้องมาเหนื่อยเพิ่มอีก ซึ่งหลายเสียงก็มีทั้งเห็นใจและหลายเสียงก็บอกว่าถ้าไม่ใช่พี่ตูนทำแล้วใครจะทำ ?
นั่นสินะใครจะทำ? คุณ ? ผม ?หรือป้าข้างบ้าน? หรือหลานคนขายข้าวแกง ? กลับมาคิดอีกทีคิดด้วยเหตุและผล มันเป็นเรื่องของทุกคนนั่นแหละที่ต้องทำ ทำในที่นี้คือถ้าทุกคนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์ ทุกคนก็จะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อไม่ป่วยก็ไม่ต้องไปโรงพยาบาล พอทุกคนแข็งแรงมากขึ้น พี่ตูนก็คงไม่ต้องวิ่ง ไม่งั้นถ้าเรายังไม่ปรับพฤติกรมม พี่ตูนคงต้องออกมาวิ่งแบบไม่รู้จบอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้วเราทุกคนต้องไป วิ่งแบบพี่ตูน วิ่งแบบพี่ตูน กันเถอะจ้าาา