เอล นินโญ่ แห่งวงการฟุตบอล

การเคลื่อนไหวที่สง่างาม ผมสีทองที่ปลิวไสวบนฟลอหญ้า ลีลาที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย รูปร่างอรชร แต่แข็งแกร่ง ว่องไว และทักษะการสังหารประตูที่คมกริบ นี่คือภาพความทรงจำ ของชายที่ได้รับสมญานามว่า เอล นินโญ่ “เฟอร์นันโด โฆเซ ตอร์เรส” หรือ “เฟร์นานโด ตอร์เรส” นั้นเอง

เฟร์นันโด โฆเซ ตอร์เรส ซันซ์ เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ตอร์เรสเกิดที่เมืองฟูเอนลาบราดา 

(Fuenlabrada) เมืองชนบทขนาดย่อมทางใต้ของกรุงมาดริด เดิมตอร์เรสเป็นเด็กฝึกหัดของอัตเลติโกเดมาดริดในประเทศสเปน และก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ รวมถึงการที่ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันของทีม โดยในขณะนั้นตอร์เรสมีอายุเพียง 19 ปี ตอร์เรสได้รับฉายาจากสื่อในสเปนว่า “เอลนีโญ” (เด็ก) เพราะหน้าตาของตอร์เรสดูอ่อนวัยกว่าอายุเป็นอย่างยิ่ง

ตอร์เรสเป็นศูนย์หน้าที่มีพรสวรรค์ในการเล่นเป็นอย่างมาก เขาสามารถยิงประตู 75 ประตูใน 5 ฤดูกาล ในลีกสูงสุดของสเปน โดยมีเพียง ซามูเอล เอโต และ ดาบิด บียา ที่ยิงได้มากกว่าในระยะเวลาเดียวกัน

            และแล้วการมาของตอร์เรสแห่งสโมสรลิเวอร์พูลก็เกิดขึ้นเมื่อ ฤดูกาล 2007-2008 (ฤดูกาลแรก)ค่าตัวในการเซ็นสัญญาของ เฟร์นันโด ตอร์เรส ได้รับการบันทึกไว้เป็นสถิติสูงสุดของลิเวอร์พูล แม้ว่าสื่ออังกฤษรายงานว่า ค่าตัวนักเตะอยู่ที่ประมาณ 26.5 ล้านปอนด์ ราฟาเอล เบนีเตซ ยืนยันในการสัมภาษณ์กับสื่อสเปนว่า ค่าตัวอยู่ที่เกือบ 20 ล้านปอนด์ ยังมีรายงานอีกว่า ตอร์เรสยอมลดค่าเหนื่อยสำหรับการย้ายตัว หนังสือพิมพ์ The Times รายงานว่า ค่าตัวลดจาก 103,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในสเปน เหลือ 91,000 ปอนด์

            ในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2551 เฟร์นันโด ตอร์เรส กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของสโมสร ต่อจาก ร็อบบี ฟาวเลอร์ ที่สามารถทำประตูในลีกได้เกินถึง 20 ประตูใน 1 ฤดูกาล และผลงานของเขากับลิเวอร์พูลก็ยากที่ใครจะมาหยุด ตอร์เรสซัดไปทั้งหมด 81 ประตู ในสีเสื้อของหงส์แดง 

เฟร์นานโด ตอร์เรส อดีตดาวยิงทีมชาติสเปนที่เพิ่งประกาศวันแขวนสตั๊ดอำลาวงการไปหมาดๆ พร้อมเผยว่า สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานแข้งลิเวอร์พูล คือเพื่อนร่วมทีมที่ดีสุดของตัวเอง

“ผมพูดอยู่เสมอว่า เพื่อนร่วมทีมที่ดีสุดเท่าที่เคยเล่นด้วยกันก็คือ สตีเวน เจอร์ราร์ด และมาจนถึงวันนี้ ความรู้สึกนั้นก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง” เจ้าตัวกล่าว

“เจอร์ราร์ด เป็นมิดฟิลด์ที่มีครบทุกอย่างสำหรับการสนับสนุนให้กองหน้าทำประตู และเขาก็ช่วยยกระดับมาตรฐานการเล่นของผมขึ้นไปหลายขั้น สร้างสรรค์มิติเข้าทำที่หลากหลายได้อีกต่างหาก”

“ตลอด 3 ปีครึ่งที่ได้ลงสนามเคียงข้าง เจอร์ราร์ด เป็นช่วงเวลาสุดแสนอัศจรรย์บนเส้นทางค้าแข้งนี้ บอกตามตรงว่าผมโหยหาการเล่นฟุตบอลกับเขามากจริงๆ”